มาทำความรู้จักสนามกอล์ฟมาตราฐานกันเถอะ
สนามกอล์ฟถือว่าเป็นสนามกีฬาที่กว้างขว้าง ใช้พื้นที่ในการก่อสร้างมากที่สุด เมื่อเทียบกับสนามกีฬาของชนิดกีฬาประเถทอื่นๆ และก็เป็นสนามกีฬาที่สวยงามที่สุดอีกด้วย เพราะในแต่ละสนามก็จะประกอบไปด้วยธรรมชาติที่สวยงาม พื้นสนามหญ้าที่กว้าง ต้นไม้ใหญ่น้อย แปลงของไม้ดอกไม้ประดับมากมาย รวมทั้งสระน้ำ แอ่งเก็บน้ำขนาดใหญ่ ทำให้ภาพรวมของสนามกอล์ฟสวยงาม และให้ความเพลิดเพลินกับนักกอล์ฟที่เข้ามาเล่นกอล์ฟได้เป็นอย่างดี
โดยทั่วไปสนามกอล์ฟจะมีทั้งหมด 18 หลุม ระยะรวมอยู่ที่ประมาณ 6,800-7,200 หลาใช้พื้นที่ในการทำสนามกอล์ฟประมาณ 500-700 ไร่ แล้วแต่งบประมาณและการออกแบบของแต่ละสนาม โดยจะประกอบด้วยหลุมพาร์3,พาร์4 และพาร์5 และเกือบ90เปอร์เซ็น จะประกอบด้วย
- พาร์ 3. จำนวน 4 หลุม ระยะมาตราฐานของพาร์ 3. ไม่เกิน 250 หลา
- พาร์ 4. จำนวน 10 หลุม ระยะมาตราฐานของพาร์ 4. อยู่ระหว่าง 251-480 หลา
- พาร์ 5. จำนวน 4 หลุม ระยะมาตราฐานของพาร์ 5. เกินกว่า 481 หลาขึ้นไป
เมื่อรวมจำนวนรวมของพาร์ได้เท่ากับ 72 พาร์ หมายถึงว่าสนามออกแบบมาให้นักกอล์ฟตีตามจำนวนครั้งทั้งหมด 72 ครั้ง เมื่อเล่นครบ 18 หลุม
หากนักกอล์ฟทำสกอร์ได้เกินกว่าค่าพาร์ที่สนามกำหนดจะเรียกว่าทำสกอร์ โอเวอร์พาร์ เช่นตีไป 82 ครั้งเมื่อเล่นไปครบ 18 หลุม ก็จะเรียกว่าทำสกอร์ได้ 10 โอเวอร์พาร์ และในทางกลับกัน หากนักกอล์ฟทำสกอร์ได้ต่ำกว่าค่าพาร์ที่สนามกำหนด ก็จะเรียกว่าอันเดอร์พาร์ เข่น ทำสกอร์ได้ 69 แต้มเมื่อเล่นครบ 18 หลุม ก็จะเรียกว่าทำสกอร์ 3 อันเดอร์พาร์ นั่นเอง
ส่วนประกอบของสนามกอล์ฟ.
1.แท่นตั้งที (Teeing Grounds) เป็นจุดเริ่มเล่นในแต่ละหลุม บนแท่นตั้งที่ ก็จะมีหมุดปักแสดงพื้นที่ในการปักลูกเริ่มเล่น และหมุดก็จะมีหลายหมุดโดยแบ่งตามระดับฝีมือ เพื่อให้นักกอล์ฟได้เลือกเล่นตามระยะที่ตนเองต้องการ โดยทั่วไปจะแบ่งดังนี้
- หมุดสำหรับนักกอล์ฟอาชีพและนักกอล์ฟแต้มต่อตัวเดียว (0-9) ส่วนมากใช้สีดำ ระยะรวมประมาณ 6,800-7,200 หลา
- หมุดสำหรับนักกอล์ฟสมัครเล่นทั่วไปชาย ส่วนมากใช้สีขาว ระยะรวมประมาณ 6,400-6,800 หลา
- หมุดสำหรับนักกอล์ฟอาวุโสชาย ส่วนมากใช้สีเหลือง ระยะรวมประมาณ 6,000-6,400 หลา
- หมดสำหรับนักกอล์ฟสุภาพสตรีและนักกอล์ฟเยาวชน ส่วนมากใช้สีแดง ระยะรวมประมาณ 5,400-6,000 หลา
2.แฟร์เวย์ (Fairway) เป็นพื้นสนามหญ้าที่ตัดเรียบ จากแท่นตั้วทีไปจนถึงกรีน โดยจะมีความกว้างเฉลี่ยประมาณ 32 หลา
3.กรีน (Putting Green) เป็นพื้นที่จุดสิ้นสุดในการเล่นในแต่ละหลุม บนกรีนจะทำการเจาะหลุม เพื่อให้นักกอล์ฟพัตลูกกอล์ฟให้ลงหลุม จึงจะถือว่าเล่นจบในหลุมนั้น กรีนเป็นพื้นที่ที่สำคัญที่สุดของสนามกอล์ฟ และมีค่าการก่อสร้างสูงที่สุด สนามแต่ละสนามจะให้ความเอาใจใส่ต่อกรีนสูงที่สุด เพื่อให้กรีนพัตอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ที่สุด สนามที่ดีต้องมีกรีนที่ดี เพราะเกมส์กอล์ฟมาตัดสินผลแพ้ชนะกันบนกรีน
4.บ่อน้ำหรืออุปสรรคน้ำ (Water Hazards) มีไว้เพื่อเป็นอุปสรรคในการเล่น เพื่อเพิ่มรสชาติในการเล่นกอล์ฟ อีกทั้งเพิ่มความสวยงามให้กับสนามกอล์ฟ แล้วแต่การออกแบบ และยังเป็นแหล่งกักเก็บน้ำของสนามกอล์ฟอีกด้วย
5.บังเกอร์หรือหลุมทราย (Bunkers) ถือเป็นอุปสรรคอีกพื้นที่หนึ่งของสนามกอล์ฟ โดยจะนำทรายมาใส่ไว้ในหลุม เพื่อให้นักกอล์ฟได้แก้ปัญหาเมื่อลูกกอล์ฟตกลงมายังหลุมทรายที่ออกแบบดักเอาไว้
6.รัฟ (Rough) เป็นพื้นที่หญ้าที่ปล่อยไว้ให้ยาว เพื่อเป็นอุปสรรคในการเล่นอีกอย่างหนึ่ง โดยปกติแล้วจะอยู่ขนานไปกับแฟร์เวย์ เมื่อลูกหลุดออกจากแฟร์เวย์ก็จะเข้ามายังรัฟ ซึ่งจะตีได้ยาก เพราะลูกกอล์ฟจะจมอยู่ในหญ้าที่ยาว
7.เขตโอบี (OUT OF Bounds) คือเขตหรือแนวที่แสดงพื้นที่ที่อยู่นอกสนาม จะแสดงด้วยหลักหรือเส้นสีขาว
8.พื้นที่ซ่อม (Ground Under Repair) คือพื้นที่ที่อยู่ระหว่างการซ่อมแซมหรือปรับปรังใหม่ ยังไม่พร้อมที่จะให้นักกอล์ฟเล่น โดยจะแสดงขอบเขตไว้ด้วยเส้นหรือหลักเพื่อแสดงว่าเป็นพื้นที่ซ่อม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น