วันอาทิตย์ที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2555

เทคนิคการเล่นกอล์ฟให้เก่ง

เทคนิคการเล่นกอล์ฟให้เก่ง

           มีอยู่สองวิธีด้วยกันที่จะทำให้ลูกกอล์ฟตกและหยุดอย่างรวดเร็ว วิธีที่หนึ่งคือ ใส่แบ็คสปินมาก ๆ หรือ วิธีที่สองคือการบังคับวิถีโคจรของลูกให้สูงโด่งแต่นุ่มนวลซึ่งเมื่อตกถึง พื้นแล้วก็จะหยุดเกือบทันที และเนื่องจากนักกอล์ฟส่วนใหญ่จะมีปัญหาการใส่แบ็คสปิน ฉะนั้นการบังคับวิถีโคจรของลูกจึงเป็นวิธีที่ง่ายกว่าท่านจะต้องตีลูกให้โด่งเพื่อที่จะบังคับให้ลูกตกอย่างนุ่มนวลตามขั้นตอนต่อ ไปนี้

ตั้งองศาหน้าไม้ให้เหมาะสม
           ท่านนักกอล์ฟทราบหรือไม่ว่าเมื่อตีออกจากรัฟมีหญ้ามากน้อยแค่ไหนที่อยู่ระหว่าง หน้าไม้กอล์ฟกับลูก ท่านจะต้องแครี่ลูกไปไกลแค่ไหน หญ้านั้นแข็งหรือนิ่ม องค์ประกอบเหล่านี้จะเป็นกำหนดองศาหน้าไม้ที่ท่านต้องการ

ตีให้ตรง

           นักกอล์ฟสมัครเล่นส่วนใหญ่มักจะใช้ไม้กอล์ฟที่มีองศาหน้าไม้น้อยกว่าที่ควรแต่ จะใช้วิธีเน้นที่จังหวะลงดาวน์สวิงแทน ซึ่งการกระทำดังกล่าวจะทำให้หัวไม้กอล์ฟเคลื่อนผ่านมือทั้งสองข้างก่อนที่จะ ถึงจังหวะที่ตีออกไป ทำให้ตีแป้ก
วิธีตีที่ถูกต้องก็คือ หลังจากจัดองศาหน้าไม้ให้เหมาะสมตามที่แนะนำข้างต้นแล้ว จากนั้นก็ตีออกไปด้วยองศาหน้าไม้แบบนั้นเลย ให้นึกภาพเส้นตรงสมมุติในจังหวะที่หน้าไม้กอล์ฟกระทบกับลูกซึ่งลากจากหัวไหล่ซ้ายลงมายังแขนและข้อมือซ้ายหน้าไม้กอล์ฟและลูกกอล์ฟ


เทคนิคการพัต/การอ่านไลน์ ( รู้ทันกรีน มีชัยไปกว่าครึ่ง )
           การพัตนั้นเป็นส่วนสำคัญของการเล่นกอล์ฟ ในการแข่งขันในระดับนักกอล์ฟอาชีพนั้น การพัตเป็นช็อตที่บ่งชี้ว่าใครที่จะเป็นผู้ชนะ สโตรคเฉลี่ยของนักกอล์ฟอาชีพนั้นอยู่ที่ 1 พัตกว่าๆเท่านั้นเอง แต่สำหรับนักกอล์ฟสมัครเล่นทั่ว ๆ ไปนั้นต่อการเล่นกอล์ฟ 18 หลุมนั้นไม่มีสามพัตก็มีความสุขแล้ว


ประกอบด้วยดังนี้


1.การสโตรคลูก พื้นฐานการสโตรคลูกที่ดีนั้นลูกจะต้องกลิ้งออกจากหน้าไม้อย่างราบเรียบนุ่ม นวล ไม่มีการกระโดด และตรงไปตามแนวเป้าหมายโดยที่ไม่หมุนออกจากแนวเป้าหมายครับ ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการสโตรคลูกมีอีกสองประการ คือ


1.1 ทิศทาง หมายถึง การเล็งเป้าหมายครับ การเล็งเป้าหมายควรจะเป็นลักษณะ สแควร์ หมายถึงการจัดหน้าไม้และร่างกายให้ขนานกับแนวเป้าหมาย เมื่อสโตรคลูกออกไปแล้ว ลูกจะต้องวิ่งออกไปทางเป้าหมายเสมอ


1.2 ระยะทาง หมายถึง การให้น้ำหนักของลูกที่กลิ้งออกจากหน้าไม้ไปยังเป้าหมาย ความหมายของการให้น้ำหนักจะมาจากการที่สายตามีความสัมพันธ์กับมือ


2. พัตไลน์ คือ เรื่องของการอ่านทางวิ่งของลูกบนกรีน ถ้าอ่านทางวิ่งได้ดีลูกก็จะวิ่งเข้าเป้าหมายได้มากที่สุดในทางตรงกันข้ามถ้า อ่านผิด ลูกก็จะวิ่งหนีเป้าหมายออกไป ปัจจัยของทางวิ่งของลูกบนกรีนนั้นจะประกอบไปด้วยสองปัจจัยก็คือ


2.1 การอ่านสโลป การอ่านสโลปหมายถึงการอ่านความเอียงของพื้นผิวกรีน ซึ่งจะมีความเอียงหลัก ๆ อยู่สี่ทาง


2.1.1 ทางขึ้นเนิน หมาย ถึงลูกจะกลิ้งได้ระยะทางน้อยกว่าพื้นเรียบ เมื่อน้ำหนักเท่ากัน


2.1.2 ทางลงเนิน หมายถึงลูกจะกลิ้งได้ระยะทางมากกว่าพื้นเรียบ เมื่อน้ำหนักเท่ากัน


2.1.3 สโลปเอียงขวา หมายถึงลูกจะกลิ้งไปซ้าย มากเท่าไรขึ้นอยู่กับความชันของสโลป


2.1.4 สโลปเอียงซ้าย หมายถึงลูกจะกลิ้งไปทางขวา มากเท่าไหร่ขึ้นอยู่กับความชันของสโลป


2.2 การอ่านทิศทางของแนวใบหญ้าบนผิวกรีน ก็มีอยู่ด้วยกันห้าทิศทาง


2.2.1 แนวย้อนหญ้า หมายถึง แนวยอดหญ้าแทงเข้าหาตัวเรา เมื่อเรายืนหลังลูกและหันหน้าไปยังหลุมจะมีผลให้ลูกกลิ้งช้าลงแต่มีผลน้อย กว่าสโลปขึ้นเนิน


2.2.2 ตามแนวหญ้า หมายถึง แนวยอดหญ้าแทงเข้าหาหลุมเมื่อเรายืนหลังลูกและหันหน้าไปยังหลุม จะมีผลทำให้ลูกกลิ้งเร็วขึ้น แต่มีผลน้อยกว่าสโลปลงเนิน


2.2.3 ยอดหญ้าแทงไปทางขวาของหลุม เมื่อเรายืนหลังลูกและหันหน้าไปยังหลุม จะมีผลทำให้ลูกกลิ้งไปทางขวาเล็กน้อย แต่มีผลน้อยกว่าสโลปเอียงซ้าย


2.2.4 ยอดหญ้าแทงไปทางซ้ายของหลุม เมื่อเรายืนหลังลูกและหันหน้าไปยังหลุมจะผลทำให้ลูกกลิ้งไปทางซ้ายเล็กน้อย แต่มีผลน้อยกว่าสโลปเอียงขวา


2.2.5 แนวยอดหญ้าไม่เป็นระเบียบ จะมีผลต่อการกลิ้งของลูกไม่มากให้เล็งลูกไปตามแนวเป้าหมายเหมือนเดิม

           ในกรณีที่เล่นในสนามที่เป็นภูเขาการอ่านสโลปบนกรีนนั้นจะต้องดูสภาพแวดล้อมของ ภูมิประเทศเป็นหลักด้วยครับอย่างเช่นในกรณีที่ด้านใดด้านหนึ่งของกรีนเป็น ภูเขาด้านนั้นจะเป็นสโลปขึ้นเนินถึงแม้ว่าเราจะไปยืนบนกรีนแล้วจะมองจากลูก ไปยังหลุมเป็นทางลงก็ตาม

           ถ้าได้ทำอย่างนี้ซ้ำ ๆ รับรองว่าท่านจะพัตได้ใกล้เคียงขึ้นแน่นอน และจะลดอาการสามพัตลงอย่างเห็นได้ชัดเลย ทำให้เล่นอย่างมีความสุข วันนี้ขอให้ท่านได้เบอร์ดี้มาก ๆ ครับ


โปร กานต์ เกษมจิรโชค ผู้เผยแพร่

ขอขอบคุณ หนังสือสมาร์ทกอล์ฟ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น